10 คำสั่ง Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณส่วนตัว ขั้นเทพ! ปลดหนี้ มีเงินเก็บ

แจกฟรี! 10 ชุดคำสั่ง Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณระดับสูง ช่วยคุณวิเคราะห์รายรับจ่าย ปลดหนี้ และวางแผนลงทุน ครบจบในที่เดียว อ่านเลย!

10 คำสั่ง Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณส่วนตัว ขั้นเทพ! ปลดหนี้ มีเงินเก็บ (ฉบับจับมือทำ)

10 คำสั่ง Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณส่วนตัว ขั้นเทพ! ปลดหนี้ มีเงินเก็บ (ฉบับจับมือทำ)

เคยไหมครับที่รู้สึกว่าทำงานหนักแทบตาย แต่พอสิ้นเดือนทีไร เงินในบัญชีกลับว่างเปล่าเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง? หรือบางคนอาจจะพอมีเงินเก็บบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับหนี้สินที่มีอยู่อย่างไรให้หมดเร็วที่สุด ปัญหาเรื่อง "เงินทอง" เป็นเรื่องใหญ่ที่โรงเรียนอาจจะไม่ได้สอนเรามาอย่างละเอียด ทำให้หลายคนต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง จนบางครั้งก็เจ็บตัวไปไม่น้อย

แต่ในวันนี้ โลกของเราเปลี่ยนไปแล้วครับ เรามีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ชื่อว่า ChatGPT เข้ามา ซึ่งเจ้า AI ตัวนี้ไม่ได้มีไว้แค่ถามตอบเรื่องทั่วไป แต่มันมีความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ลองจินตนาการดูสิครับว่า ถ้าคุณมี "ที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว" ที่เก่งระดับโลก นั่งอยู่ข้างๆ คุณ คอยช่วยคำนวณ ช่วยเตือนสติ และช่วย วางแผนงบประมาณส่วนตัว ให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เขาเลยสักบาท ชีวิตการเงินของคุณจะดีขึ้นขนาดไหน?

บทความนี้จะแจก "กุญแจ" ดอกสำคัญ นั่นคือ 10 ชุดคำสั่ง Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณ ระดับเทพ ที่จะปลดล็อกศักยภาพของ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้จัดการกองทุนส่วนตัวของคุณครับ เราจะเจาะลึกกันตั้งแต่วิธีคิด ไปจนถึงวิธีพิมพ์คำสั่ง เพื่อให้คุณมีเงินเหลือเก็บ ปลดหนี้ได้ไว และก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินได้อย่างมั่นคง

ChatGPT คืออะไรในมุมมองของการเงิน?

ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด เหมือนเด็กประถมฟังก็เข้าใจ ChatGPT ก็คือ "หุ่นยนต์นักปราชญ์" ที่อ่านหนังสือมาเยอะมากๆ รวมถึงหนังสือเรื่องการเงิน การบัญชี การลงทุน และจิตวิทยาการใช้เงินด้วย เมื่อเราพิมพ์ข้อความคุยกับมัน มันจะประมวลผลความรู้มหาศาลเหล่านั้น แล้วตอบกลับมาเป็นคำแนะนำที่เหมาะสมกับเราที่สุด

ในมุมของการ วางแผนการเงินส่วนบุคคล ChatGPT ไม่ได้แค่ทำหน้าที่บวกลบเลขเหมือนเครื่องคิดเลข แต่มันสามารถ "วิเคราะห์" ได้ว่า พฤติกรรมการใช้เงินของคุณเป็นแบบไหน จุดรั่วไหลของเงินคุณอยู่ที่ไหน และควรจะอุดรอยรั่วนั้นอย่างไร มันสามารถสร้างตารางบัญชีรายรับรายจ่ายให้คุณได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งถ้าเราทำเองอาจต้องนั่งงมใน Excel เป็นวันๆ ดังนั้น การใช้ ChatGPT จึงเหมือนการมีทางลัดที่จะพาเราไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วกว่าคนอื่นครับ

ทำไมการใช้ AI วางแผนงบประมาณถึงสำคัญ?

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องใช้ AI ทำไมไม่จดใส่สมุดเหมือนเดิม? นี่คือเหตุผลที่คุณควรเปิดใจครับ:

  • ความเป็นกลาง (Objectivity): มนุษย์เรามักเข้าข้างตัวเองครับ เช่น "ซื้อของชิ้นนี้เถอะ เดี๋ยวเดือนหน้าค่อยประหยัด" แต่ AI ไม่มีอารมณ์ มันจะบอกคุณตามตรงตามตัวเลขว่า ถ้าซื้อวันนี้ เดือนหน้าคุณจะลำบากแค่ไหน
  • ความรวดเร็วและแม่นยำ: การคำนวณดอกเบี้ยทบต้น หรือการวางแผนปลดหนี้หลายก้อนพร้อมกัน เป็นเรื่องซับซ้อน แต่ AI ทำเสร็จในพริบตา ช่วยให้คุณเห็นภาพอนาคตทางการเงินได้ชัดเจนทันที
  • ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ (Personalization): แผนการเงินที่ดี ต้องเป็นแผนของ "เรา" คนเดียว ไม่ใช่แผนสำเร็จรูปที่ใช้กับใครก็ได้ AI สามารถปรับแผนตามเงินเดือน หนี้สิน และเป้าหมายเฉพาะตัวของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ

10 ชุดคำสั่ง (Prompt) ChatGPT วางแผนงบประมาณระดับสูง

นี่คือไฮไลท์สำคัญของบทความนี้ครับ ผมได้คัดเลือกและเขียน Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณ แบบละเอียด (Advanced Prompts) ที่ไม่ใช่แค่สั่งว่า "ช่วยทำบัญชีให้หน่อย" แต่เป็นการระบุบริบท เงื่อนไข และเป้าหมาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ได้จริงทันทีครับ

คำแนะนำ: ให้คัดลอกข้อความในเครื่องหมายคำพูด แล้วเปลี่ยนข้อมูลในวงเล็บ [...] ให้เป็นข้อมูลจริงของคุณ

1. Prompt: สร้างแผนงบประมาณรายเดือนแบบ Zero-Based Budgeting

เทคนิค Zero-Based Budgeting คือการจัดสรรเงินทุกบาททุกสตางค์ให้มีหน้าที่ ไม่ให้มีเงินเหลือทิ้งขว้าง ไม่ได้แปลว่าเงินในบัญชีต้องเป็น 0 แต่แปลว่า รายรับ - (รายจ่าย + เงินออม) = 0 วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าเงินเราหายไปไหนหมด

"ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดทำงบประมาณแบบ Zero-Based Budgeting (จัดสรรเงินทุกบาทให้มีที่ไป) ช่วยสร้างตารางแผนงบประมาณรายเดือนสำหรับพนักงานออฟฟิศในกรุงเทพฯ โดยมีข้อมูลดังนี้: รายรับสุทธิ: [35,000 บาท/เดือน] ค่าใช้จ่ายคงที่: ค่าเช่าหอพัก [7,000], ค่าเดินทาง [3,000], ค่าอินเทอร์เน็ตและมือถือ [1,000], หนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ [2,000] ไลฟ์สไตล์: ชอบกินกาแฟแบรนด์ดังวันละแก้ว, สังสรรค์กับเพื่อนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป้าหมาย: ต้องการมีเงินเก็บฉุกเฉินให้ได้ [50,000 บาท] ภายใน 1 ปี สิ่งที่ต้องการ: ตารางแสดงการแบ่งสัดส่วนเงินตามหมวดหมู่ (Needs, Wants, Savings/Debt) โดยระบุเป็นจำนวนเงินและเปอร์เซ็นต์ คำแนะนำเจาะจงในการลดค่าใช้จ่ายตามไลฟ์สไตล์ที่ระบุ เพื่อให้ถึงเป้าหมายเงินเก็บ แผนการใช้เงินรายสัปดาห์ เพื่อไม่ให้เงินหมดก่อนสิ้นเดือน"

2. Prompt: วางแผนการเงินสำหรับฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอน

ชาวฟรีแลนซ์มักเจอปัญหา "เดือนนี้รวย เดือนหน้าจน" Prompt นี้จะช่วยสร้างระบบ "เงินเดือนสมมติ" ให้คุณบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นเหมือนคนทำงานประจำ

"คุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินสำหรับอาชีพอิสระ ช่วยออกแบบระบบจัดการเงินสำหรับฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน: รายได้เฉลี่ย: ต่ำสุด [20,000] สูงสุด [60,000] บาท ค่าใช้จ่ายรายเดือน: [25,000] บาท (รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวและต้นทุนงาน) ปัญหา: มักจะใช้เงินเพลินในเดือนที่ได้เงินเยอะ และลำบากในเดือนที่งานน้อย สิ่งที่ต้องการ: กลยุทธ์การแบ่งบัญชีธนาคาร (เช่น บัญชีใช้จ่าย, บัญชีภาษี, บัญชีพักเงิน) สูตรการคำนวณเงินสำรองเลี้ยงชีพในเดือนที่รายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่าย แผนการจ่ายภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อไม่ให้โดนเรียกเก็บย้อนหลัง"

3. Prompt: กลยุทธ์ปลดหนี้แบบ Snowball vs Avalanche

การ วิธีปลดหนี้ มี 2 สำนักใหญ่ คือ Snowball (จ่ายหนี้ก้อนเล็กก่อนเพื่อเอากำลังใจ) และ Avalanche (จ่ายหนี้ดอกเบี้ยสูงก่อนเพื่อความคุ้มค่า) ให้ AI ช่วยคำนวณว่าแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด

"ช่วยวิเคราะห์และสร้างแผนการปลดหนี้ที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเปรียบเทียบระหว่างวิธี Snowball (จ่ายหนี้ก้อนเล็กก่อน) และ Avalanche (จ่ายหนี้ดอกเบี้ยสูงก่อน) จากข้อมูลหนี้สินต่อไปนี้: บัตรเครดิต A: ยอดหนี้ [30,000] ดอกเบี้ย [16%] ขั้นต่ำ [3,000] สินเชื่อส่วนบุคคล B: ยอดหนี้ [100,000] ดอกเบี้ย [25%] ผ่อนเดือนละ [4,000] หนี้ยืมเพื่อน C: ยอดหนี้ [10,000] ดอกเบี้ย [0%] ไม่มีกำหนดคืนที่แน่นอน เงินเหลือสำหรับโปะหนี้เพิ่ม: [3,000 บาท/เดือน] สิ่งที่ต้องการ: ตารางเปรียบเทียบระยะเวลาที่จะปลดหนี้หมดของทั้ง 2 วิธี จำนวนดอกเบี้ยรวมที่ประหยัดได้ คำแนะนำทางจิตวิทยาว่าควรเลือกวิธีไหน เพื่อให้มีกำลังใจในการจ่ายหนี้ต่อเนื่อง"

4. Prompt: วางแผนเก็บเงินแต่งงาน/ซื้อบ้าน (Reverse Engineering Goal)

การมีเป้าหมายลอยๆ ว่า "อยากแต่งงาน" หรือ "อยากซื้อบ้าน" มักไม่สำเร็จ เราต้องทำ Reverse Engineering หรือการคิดย้อนกลับจากเป้าหมายมาสู่วันนี้

"สร้างแผนออมเงินระยะสั้นถึงระยะกลาง (3 ปี) เพื่อเป้าหมายใหญ่ [แต่งงานและดาวน์บ้าน] โดยมีงบประมาณเป้าหมายที่ [500,000 บาท]: สถานะปัจจุบัน: มีเงินเก็บตั้งต้น [50,000 บาท] ความสามารถในการออม: ปัจจุบันออมได้เดือนละ [5,000 บาท] (ซึ่งคำนวณแล้วไม่น่าทัน) สิ่งที่ต้องการ: คำนวณว่าต้องออมเพิ่มเดือนละเท่าไหร่เพื่อให้ทันกำหนด 3 ปี เสนอไอเดียหารายได้เสริม (Side Hustle) ที่เหมาะกับคนทำงานประจำ เวลาหลังเลิกงาน 2-3 ชั่วโมง แนะนำที่พักเงิน (เช่น บัญชีฝากประจำ, กองทุนรวมตลาดเงิน) ที่ความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนดีกว่าออมทรัพย์ เพื่อให้เงินงอกเงย"

5. Prompt: ตรวจสุขภาพการเงินและหาจุดรั่วไหล (Financial Audit)

บ่อยครั้งที่เราเสียเงินไปกับ "Latte Factor" หรือรายจ่ายจุกจิกที่เรามองข้าม Prompt นี้จะทำหน้าที่เป็นนักสืบทางการเงินให้คุณ

"ทำหน้าที่เป็นนักสืบทางการเงิน ช่วยวิเคราะห์รายการใช้จ่ายจำลองของฉัน และชี้เป้าว่า 'จุดรั่วไหล' อยู่ที่ไหน: รายการใช้จ่ายเดือนที่ผ่านมา: ค่ากาแฟและขนม [3,500], ค่าสมาชิกรายเดือน (Netflix, Gym, Spotify, YouTube) รวม [2,000], ช้อปปิ้งออนไลน์ช่วงโปรโมชั่น [4,000], ค่าแท็กซี่ไปทำงาน (ตื่นสาย) [3,000] รายรับ: [28,000 บาท] สิ่งที่ต้องการ: วิเคราะห์ความคุ้มค่าของรายการข้างต้น เสนอทางเลือกทดแทนที่ประหยัดกว่า (เช่น การทำอาหารเช้าเองแบบง่ายๆ หรือแพ็กเกจสมาชิกแบบแชร์) คำนวณว่าถ้าลดสิ่งเหล่านี้ได้ 50% จะมีเงินเก็บเพิ่มปีละเท่าไหร่ และเงินนั้นเอาไปทำอะไรได้บ้าง (เช่น ซื้อทอง, ซื้อสลากออมสิน)"

6. Prompt: รับมือเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น

เมื่อข้าวของแพงขึ้นแต่เงินเดือนเท่าเดิม เราต้องปรับตัว Prompt นี้จะช่วยหาวิธีเอาตัวรอดในยุคข้าวยากหมากแพง

"ช่วยวางแผนปรับปรุงโครงสร้างงบประมาณเพื่อรับมือกับสภาวะเงินเฟ้อและค่าของชีพในไทยที่สูงขึ้น (ค่าอาหาร, ค่าไฟ, น้ำมัน): งบประมาณเดิม: ค่าอาหาร [6,000], ค่าเดินทาง [4,000], ค่าไฟ [2,000] สถานการณ์จริง: ราคาสินค้าขึ้นประมาณ 10-15% ทำให้งบเดิมไม่พอ สิ่งที่ต้องการ: เทคนิคการจัดการงบค่าอาหาร (Meal Planning) แบบประหยัดแต่ได้สุขภาพ สำหรับ 1 คน วิธีประหยัดพลังงานในบ้านเพื่อลดค่าไฟ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางเพื่อลดค่าน้ำมัน โดยไม่กระทบงานมากเกินไป"

7. Prompt: จัดพอร์ตการลงทุนสำหรับมือใหม่ (Asset Allocation)

เมื่อมีเงินเก็บแล้ว ต้องให้เงินทำงาน การ ลงทุนสำหรับมือใหม่ อาจดูน่ากลัว แต่ AI สามารถช่วยแนะนำโครงสร้างพอร์ตพื้นฐานได้ (Asset Allocation)

"ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการลงทุน (Investment Advisor) ช่วยแนะนำสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) สำหรับมือใหม่: อายุ: [30 ปี] รับความเสี่ยงได้: [ปานกลาง] (รับการขาดทุนได้บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเงินต้นหายหมด) เงินลงทุนต่อเดือน: [2,000 บาท] (DCA) ระยะเวลา: [10 ปีขึ้นไป] สิ่งที่ต้องการ: สัดส่วนพอร์ตที่แนะนำ (เช่น หุ้นไทย, หุ้นโลก, ตราสารหนี้, ทองคำ) เป็นเปอร์เซ็นต์ อธิบายเหตุผลว่าทำไมต้องจัดพอร์ตแบบนี้ในภาษาที่เข้าใจง่าย ตัวอย่างชื่อกองทุนหรือประเภทสินทรัพย์ที่ควรศึกษาต่อ (ไม่ต้องระบุชื่อหุ้นรายตัว)"

8. Prompt: สร้างกองทุนฉุกเฉินแบบเร่งด่วน (Emergency Fund Sprint)

ชีวิตไม่แน่นอน การมี เงินสำรองฉุกเฉิน คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ถ้าคุณยังไม่มี Prompt นี้จะช่วยสร้างแผนปฏิบัติการแบบเร่งด่วน

"ฉันต้องการสร้างเงินสำรองฉุกเฉินจำนวน [3 เท่าของค่าใช้จ่าย หรือประมาณ 60,000 บาท] ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช่วยสร้างแผน 'Emergency Fund Sprint' ในระยะเวลา 6 เดือน: ข้อจำกัด: ไม่สามารถทำงานล่วงเวลา (OT) ได้ ทรัพย์สินที่มี: เสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไม่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง, หนังสือเก่า สิ่งที่ต้องการ: แผนปฏิบัติการขายของมือสอง (Second-hand selling strategy) ควรโพสต์ที่ไหน ขายอย่างไร มาตรการรัดเข็มขัดขั้นสูงสุด (No-spend challenge) ในช่วง 6 เดือนนี้ อะไรที่ห้ามซื้อเด็ดขาด ตารางติดตามความคืบหน้า (Milestone) เพื่อให้กำลังใจตัวเอง"

9. Prompt: วางแผนการเงินคู่รัก/ครอบครัว

เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร โดยเฉพาะกับคู่รัก การมีระบบที่ชัดเจนจะช่วยลดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งได้ครับ

"ช่วยออกแบบระบบการจัดการเงินสำหรับคู่รักที่เพิ่งย้ายมาอยู่ด้วยกัน: รายได้: สามี [40,000], ภรรยา [35,000] ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง: ค่าเช่าคอนโด, ค่าน้ำไฟ, ค่าอาหารในบ้าน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: ค่าโทรศัพท์, ค่าเสื้อผ้า, ให้พ่อแม่ของแต่ละฝ่าย สิ่งที่ต้องการ: เสนอโมเดลการจัดการเงิน (เช่น กระเป๋ากลาง + กระเป๋าส่วนตัว หรือ รวมกระเป๋าทั้งหมด) พร้อมข้อดีข้อเสีย วิธีการคำนวณสัดส่วนเงินที่ต้องลงกองกลาง (หารครึ่ง หรือ หารตามสัดส่วนรายได้) ตัวอย่างหัวข้อที่ควรคุยกันใน 'วันประชุมการเงินครอบครัว' (Monthly Finance Date)"

10. Prompt: วางแผนเกษียณอายุตั้งแต่วันนี้ (Retirement Planning)

อย่ารอให้แก่แล้วค่อยคิดเรื่องเกษียณ เพราะเวลาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของการลงทุน ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งเหนื่อยน้อยลงครับ

"ช่วยคำนวณและวางแผนเกษียณอายุสำหรับคนอายุ [25 ปี] ที่ต้องการเกษียณตอนอายุ [55 ปี]: เป้าหมาย: อยากมีเงินใช้หลังเกษียณเดือนละ [30,000 บาท] (มูลค่าเงินปัจจุบัน) ไปจนถึงอายุ 85 ปี สิ่งที่ต้องการ: คำนวณจำนวนเงินก้อนทั้งหมดที่ต้องมี ณ วันเกษียณ (รวมเงินเฟ้อ 3% ต่อปี) ต้องเก็บเงินหรือลงทุนเดือนละเท่าไหร่ หากผลตอบแทนคาดหวังอยู่ที่ 7% ต่อปี แนะนำลำดับความสำคัญในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการเกษียณ (เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, RMF, SSF)"

วิธีนำแผนไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน

ได้ Prompt เทพๆ ไปแล้ว ถ้าไม่ลงมือทำก็เปล่าประโยชน์ครับ นี่คือขั้นตอนง่ายๆ ในการนำผลลัพธ์จาก ChatGPT มาใช้จริง:

  1. เตรียมข้อมูลจริง: รวบรวมสลิปเงินเดือน รายการบัตรเครดิต และบิลต่างๆ มากางไว้ตรงหน้า เพื่อให้ตัวเลขที่ใส่ลงไปแม่นยำที่สุด
  2. คุยกับ AI: ก๊อปปี้ Prompt ด้านบน ใส่ข้อมูลของคุณ แล้วกดส่ง
  3. ตรวจสอบความถูกต้อง: อ่านคำแนะนำที่ AI ให้มา ลองดูว่าเป็นไปได้จริงไหม ถ้ามันโหดไป (เช่น บอกให้กินข้าววันละ 50 บาท) ให้พิมพ์ตอบกลับไปว่า "ขอแผนที่ยืดหยุ่นกว่านี้ เพิ่มงบค่ากินเป็น 150 บาทต่อวัน"
  4. Export ข้อมูล: ให้ ChatGPT สร้างตาราง แล้วคุณก๊อปปี้ไปวางใน Google Sheets หรือ Excel เพื่อติดตามผลรายเดือน
  5. เริ่มทันที: อย่ารอวันจันทร์ หรือรอต้นเดือน เริ่มจดบันทึกรายจ่ายตั้งแต่วันนี้เลย

บทสรุป

การวางแผนงบประมาณไม่ใช่เรื่องของการ "อดออม" จนชีวิตไม่มีความสุข แต่เป็นเรื่องของการ "จัดการ" ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด การใช้ Prompt ChatGPT วางแผนงบประมาณ ที่ผมแนะนำไปทั้ง 10 ข้อนี้ เปรียบเสมือนคุณมีที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัวระดับโลกมานั่งข้างๆ ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวม แก้ปัญหาการเงิน และสร้างความมั่งคั่งได้ชัดเจนขึ้น

เทคโนโลยีมีพร้อมแล้ว เหลือแค่ "ใจ" ของคุณแล้วครับ ว่าพร้อมจะเริ่มเปลี่ยนชีวิตการเงินให้ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้หรือเปล่า? ลองนำ Prompt ไปใช้ดูนะครับ ผลลัพธ์อาจจะทำให้คุณประหลาดใจว่า "รู้งี้ใช้นานแล้ว!"


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. ข้อมูลการเงินที่ใส่ลงไปใน ChatGPT ปลอดภัยแค่ไหน? แม้ ChatGPT จะมีระบบความปลอดภัย แต่เพื่อความสบายใจที่สุด ห้าม ใส่ข้อมูลระบุตัวตน เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร รหัสผ่าน PIN หรือเลขบัตรประชาชนเด็ดขาด ให้ใช้เพียงตัวเลขจำนวนเงินและข้อมูลทั่วไปเท่านั้นครับ

2. ต้องใช้ ChatGPT เวอร์ชั่นเสียเงิน (Plus) ไหม ถึงจะทำได้? ไม่จำเป็นครับ Prompt ทั้ง 10 ข้อนี้สามารถใช้งานได้ดีเยี่ยมบน ChatGPT เวอร์ชั่นฟรี (3.5 หรือ 4o-mini) แต่ถ้าใช้เวอร์ชั่น Plus (GPT-4) การวิเคราะห์อาจจะมีความลึกซึ้งและซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย

3. ChatGPT สามารถทำนายหุ้นหรือบอกเลขหวยได้ไหม? ไม่ได้ครับ ChatGPT ไม่สามารถทำนายอนาคตตลาดหุ้นหรือสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ มันทำได้เพียงวิเคราะห์ข้อมูลจากอดีตและหลักการลงทุนตามทฤษฎีเท่านั้น การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง

4. ถ้าฉันเป็นหนี้นอกระบบ AI จะช่วยได้ไหม? AI สามารถช่วยวางแผนการจัดสรรเงินเพื่อไปเจรจาจ่ายหนี้ได้ แต่ AI ไม่สามารถไปเจรจากับเจ้าหนี้แทนคุณได้ คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการนำตัวเลขที่ AI คำนวณไปปรึกษาหน่วยงานรัฐหรือทนายความเพื่อหาทางออกทางกฎหมายควบคู่ไปด้วย

5. ควรทำงบประมาณใหม่บ่อยแค่ไหน? ควรให้ ChatGPT ช่วยทบทวนแผนทุกๆ 3-6 เดือน หรือทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในชีวิต เช่น ได้ขึ้นเงินเดือน เปลี่ยนงาน หรือมีลูก

6. จะเริ่มใช้ Prompt ไหนก่อนดีสำหรับมือใหม่? แนะนำให้เริ่มจาก Prompt ข้อที่ 1 (Zero-Based Budgeting) และ Prompt ข้อที่ 5 (Financial Audit) เพื่อให้เห็นภาพรวมสถานะการเงินปัจจุบันของคุณก่อน แล้วค่อยขยับไปเรื่องการลงทุนหรือปลดหนี้ครับ


อยากเรียนรู้เพิ่มเติม? ไปดูคอร์สเรียน ChatGPT ระดับลึกได้ที่: https://www.benziogpt.com/courses

Categories: : ChatGPT Prompts