แจก 7 ชุดคำสั่ง Prompt ChatGPT ขั้นเทพ เขียนบทความ SEO ให้ติดหน้าแรก (พร้อมตัวอย่างจริงที่ก๊อปไปใช้ไ

รวม 7 ตัวอย่าง Prompt ChatGPT ระดับสูง เขียนบทความ SEO ให้ปังแบบไม่ต้องแก้เยอะ ช่วยคุณประหยัดเวลา เพิ่มยอดวิว และสร้างรายได้ อ่านจบทำตามได้ทันที

แจก 7 ชุดคำสั่ง Prompt ChatGPT ขั้นเทพ เขียนบทความ SEO ให้ติดหน้าแรก (พร้อมตัวอย่างจริง)

แจก 7 ชุดคำสั่ง Prompt ChatGPT ขั้นเทพ เขียนบทความ SEO ให้ติดหน้าแรก (พร้อมตัวอย่างจริงที่ก๊อปไปใช้ได้เลย)

คุณเคยรู้สึกไหมครับว่า เวลาให้ AI ช่วยเขียนงาน ผลลัพธ์ที่ได้มักจะดู "แข็งทื่อ" เหมือนหุ่นยนต์ เนื้อหาซ้ำไปซ้ำมา หรืออ่านแล้วรู้ทันทีว่า "นี่มันไม่ใช่คนเขียนแน่ๆ"?

ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้ ผมบอกเลยครับว่าคุณไม่ใช่คนเดียว และปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ความฉลาดของ AI แต่อยู่ที่ "วิธีที่คุณคุยกับมัน" ครับ

หลายคนยังใช้คำสั่งง่ายๆ เช่น "ช่วยเขียนบทความเรื่องกาแฟให้หน่อย" สิ่งที่คุณได้กลับมาก็จะเป็นข้อมูลกว้างๆ ที่หาได้ทั่วไปใน Google ซึ่งไม่มีทางที่จะทำอันดับ SEO แข่งกับเจ้าใหญ่ๆ ได้ และที่สำคัญคือ มันไม่ดึงดูดให้คนอ่านจนจบครับ

การ เขียนบทความ SEO ในยุคนี้ ไม่ใช่แค่การยัดคีย์เวิร์ด หรือมีเนื้อหาเยอะๆ อีกต่อไป แต่ต้องเป็นเนื้อหาที่ "รู้ลึก รู้จริง และแก้ปัญหาให้คนอ่านได้" ซึ่ง Prompt ChatGPT ทำได้แน่นอน... ถ้าคุณรู้วิธีสั่งงานมันแบบ "มืออาชีพ"

ในบทความนี้ ผมได้รวบรวม 7 ชุดคำสั่ง (Prompts) ระดับสูง ที่ผมใช้จริงในการทำงานวางแผน Content Marketing ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนให้ ChatGPT ของคุณ กลายเป็นทีมงานนักเขียนระดับเทพ ที่ช่วยคุณประหยัดเวลา และได้งานคุณภาพสูงที่พร้อมใช้งานทันทีครับ


หลักการเขียน Prompt ให้ AI ฉลาดขึ้น (The Secret Formula)

ก่อนที่เราจะไปดูตัวอย่างคำสั่ง ผมอยากปูพื้นฐานสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายๆ เหมือนสอนเด็กประถมเลยครับ ว่าทำไมเราถึงต้องสั่งยาวๆ

จินตนาการว่าคุณจ้างพนักงานใหม่ แล้วสั่งแค่ว่า "ไปซื้อข้าวให้หน่อย" พนักงานคนนั้นอาจจะซื้อข้าวแกงข้างทางมาให้ ทั้งที่คุณอยากกินอาหารญี่ปุ่น แต่ถ้าคุณสั่งว่า:

"ช่วยไปซื้อข้าวเที่ยงให้หน่อย ขอเป็นอาหารญี่ปุ่น ร้าน A เมนู B ไม่เอาผัก ขอซอสเพิ่ม งบไม่เกิน 200 บาท"

พนักงานคนนั้นจะทำงานได้ถูกใจคุณ 100% ใช่ไหมครับ?

ChatGPT ก็เหมือนกันครับ สูตรลับของการเขียนคำสั่งที่ดี ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก:

  • Role (บทบาท): บอกให้มันเป็นใคร (เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO Strategy, ครูสอนภาษา, นักการตลาด)
  • Context (บริบท): บอกข้อมูลพื้นฐาน (กลุ่มเป้าหมายคือใคร, สินค้าคืออะไร, ปัญหาคืออะไร)
  • Task (งาน): สั่งให้ทำอะไร (เขียนบทความ, วางแผน, คิดหัวข้อ)
  • Constraint (ข้อจำกัด): กฎที่ต้องทำตาม (ความยาว, โทนเสียง, ห้ามใช้คำฟุ่มเฟือย)

ถ้าเข้าใจตรงนี้แล้ว เตรียมสมุดจด (หรือเตรียม Copy) แล้วไปดู 7 คำสั่งเทพกันเลยครับ


คำสั่งที่ 1: นักวางกลยุทธ์คีย์เวิร์ด (The SEO Strategist)

การเริ่มเขียนบทความโดยไม่มี Keyword คือความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดครับ แทนที่จะถาม AI แค่ว่า "ขอไอเดียบทความหน่อย" ให้ใช้คำสั่งนี้เพื่อเจาะลึกพฤติกรรมคนค้นหาครับ

"สวมบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO Strategy ประสบการณ์ 10 ปี

โจทย์: ฉันต้องการทำบทความสำหรับเว็บไซต์ขาย 'อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง' ในประเทศไทย
กลุ่มเป้าหมาย: มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มสนใจการกางเต็นท์ อายุ 25-35 ปี งบประมาณปานกลาง

สิ่งที่คุณต้องทำ:
ช่วยวิเคราะห์และเสนอไอเดียบทความมา 5 หัวข้อ ที่ไม่ใช่แค่หัวข้อกว้างๆ แต่ต้องเป็นหัวข้อที่มีคนค้นหาจริง (High Search Intent) โดยแต่ละหัวข้อต้องประกอบด้วย:
1. ชื่อเรื่องที่ดึงดูด (Headline)
2. Keyword หลัก (Primary Keyword)
3. Keywords รอง 3-5 คำ (LSI Keywords) ที่เกี่ยวข้องกัน
4. ปัญหาที่ผู้อ่านกำลังเจอ (Pain Point) และวิธีที่บทความนี้จะช่วยแก้ปัญหา

ขอข้อมูลในรูปแบบตารางที่อ่านง่าย และเน้นหัวข้อที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง"

ทำไมคำสั่งนี้ถึงได้ผล: เพราะคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน และสั่งให้ AI คิดแบบนักวางกลยุทธ์ที่มองหา "ปัญหา" ของลูกค้า ไม่ใช่แค่ตั้งชื่อเรื่องลอยๆ ทำให้คุณได้หัวข้อที่คนอยากอ่านจริงๆ ครับ

คำสั่งที่ 2: สถาปนิกโครงสร้างบทความ (The Master Outliner)

โครงสร้างที่ดีคือกระดูกสันหลังของบทความครับ ถ้าโครงสร้างไม่ดี บทความจะสะเปะสะปะ อ่านยาก และ Google ไม่ชอบครับ

"สวมบทบาทเป็นบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างบทความ SEO

หัวข้อบทความ: 'คู่มือเลือกซื้อเต็นท์สนามฉบับมือใหม่: ซื้อครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียเงินหลายรอบ'

สิ่งที่คุณต้องทำ:
สร้างโครงสร้างบทความ (Outline) ที่ละเอียดมาก ความยาวรวมประมาณ 3,000 คำ โดยต้องมีองค์ประกอบดังนี้:
1. ใช้ Heading Tags (H1, H2, H3) อย่างถูกต้องตามหลัก SEO
2. ในแต่ละหัวข้อ ให้เขียนบรีฟสั้นๆ ว่าต้องเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อให้ครอบคลุมที่สุด (Comprehensive)
3. ต้องมีหัวข้อ 'ข้อผิดพลาดที่มือใหม่มักทำ' เพื่อดึงดูดความสนใจ
4. ต้องมีหัวข้อ 'ตารางเปรียบเทียบ' เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินใจง่ายขึ้น
5. จบด้วย FAQ คำถามที่พบบ่อย 5 ข้อ

เป้าหมายคือ ผู้อ่านอ่านบทความนี้จบแล้ว ไม่ต้องไปอ่านเว็บอื่นอีกเลย"

ทำไมคำสั่งนี้ถึงได้ผล: AI จะไม่เขียนแค่หัวข้อลอยๆ แต่จะบรีฟเนื้อหาในแต่ละส่วนให้ด้วย ทำให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อนลงมือเขียนจริง หรือส่งงานต่อให้นักเขียนคนอื่นได้ง่ายมากครับ

คำสั่งที่ 3: นักเขียนบทนำที่ดึงดูดใจ (The Hook Master)

บทนำคือส่วนที่สำคัญที่สุดครับ ถ้า 3 บรรทัดแรกไม่โดน คนจะกดปิดทันที เราต้องใช้จิตวิทยาเข้ามาช่วยครับ

"สวมบทบาทเป็น Copywriter ระดับโลก ที่เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการอ่าน

บริบท: เรากำลังจะเขียนบทนำสำหรับบทความเรื่อง 'วิธีเก็บเงิน 1 แสนแรก สำหรับเด็กจบใหม่'

สิ่งที่คุณต้องทำ:
ช่วยเขียนบทนำมาให้เลือก 3 แบบ โดยใช้เทคนิคการเขียนที่แตกต่างกันดังนี้:
1. แบบ PAS (Problem-Agitate-Solution): เริ่มด้วยปัญหา ขยี้ให้เจ็บปวด แล้วเสนอทางออก
2. แบบ Storytelling: เล่าเรื่องจำลองสถานการณ์ที่ผู้อ่านอินตามได้ง่าย (เช่น ความรู้สึกตอนเงินเดือนหมดก่อนสิ้นเดือน)
3. แบบ Contrarian (ขัดแย้ง): เริ่มด้วยความเชื่อผิดๆ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ แล้วบอกความจริง

ข้อจำกัด:
- ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง เหมือนพี่สอนน้อง
- ห้ามใช้คำศัพท์วิชาการยากๆ
- ความยาวไม่เกิน 150 คำต่อแบบ
- ต้องกระตุ้นให้อยากอ่านต่อในทันที"

ทำไมคำสั่งนี้ถึงได้ผล: การระบุ Framework (PAS, Storytelling) จะช่วยคุมโทนและจังหวะการเล่าเรื่องให้เหมือนมนุษย์ และดึงดูดอารมณ์ผู้อ่านได้ดีกว่าการบอกให้ "เขียนบทนำ" เฉยๆ ครับ

คำสั่งที่ 4: นักเล่าเรื่องผู้เชี่ยวชาญ (The Expert Writer)

นี่คือหัวใจหลักครับ การเขียนเนื้อหา (Body) ให้น่าอ่าน ไม่ใช่น้ำท่วมทุ่ง แต่ต้องมีเนื้อหาที่เอาไปใช้ได้จริง

"สวมบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing และนักเขียนสารคดีที่เก่งเรื่องการยกตัวอย่าง

งานที่ต้องทำ:
ช่วยเขียนเนื้อหาในส่วนหัวข้อ 'การสร้างแบรนด์บน TikTok'

รายละเอียดที่ต้องการ:
1. อธิบายทฤษฎีสั้นๆ (20%) และเน้นวิธีทำจริง (How-to) (80%)
2. สำคัญมาก: ต้องมี 'Use Case' หรือตัวอย่างสมมติที่ละเอียดสุดๆ แทรกอยู่ในเนื้อหา
*ตัวอย่าง Use Case: ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นไซซ์ใหญ่ที่ใช้ TikTok ถ่ายคลิปเบื้องหลังการแพ็คของ จนยอดขายโต 300%*
3. ใช้ภาษาที่กระชับ มีจังหวะจะโคน (Flow) หลีกเลี่ยงคำฟุ่มเฟือย
4. ใช้ Bullet Point เพื่อให้อ่านง่าย
5. แทรกคำเชื่อมประโยค (Transition words) อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น 'อย่างไรก็ตาม', 'ในทางกลับกัน', 'นอกจากนี้'

น้ำเสียง (Tone): จริงจังแต่เข้าใจง่าย ให้กำลังใจ และเน้นผลลัพธ์"

เคล็ดลับ: กุญแจสำคัญคือคำสั่ง "เน้น Use Case หรือตัวอย่างสมมติที่ละเอียดสุดๆ" เพราะ AI มักจะเขียนทฤษฎีได้ดี แต่ตกม้าตายเรื่องตัวอย่าง การสั่งแบบนี้จะทำให้เนื้อหามี "เนื้อหนัง" ที่คนอ่านนำไปใช้ได้จริงครับ


รับข้อมูล 100 AI Tools! อัพเดทล่าสุดที่อาจารย์เบนซ์คัดมาให้


คำสั่งที่ 5: บรรณาธิการตรวจสอบความถูกต้อง (The Strict Editor)

เมื่อได้เนื้อหามาแล้ว อย่าเพิ่งโพสต์นะครับ! ให้ใช้ Prompt นี้เพื่อเกลาภาษาให้สวยงามเหมือนมืออาชีพมาตรวจเอง

"สวมบทบาทเป็นบรรณาธิการนิตยสารที่เข้มงวดเรื่องภาษาและความถูกต้อง

สิ่งที่คุณต้องทำ:
ช่วยตรวจทานและแก้ไขข้อความด้านล่างนี้ (Paste เนื้อหาที่คุณได้จาก AI หรือเขียนเองลงไป):

1. ปรับสำนวน: เปลี่ยนประโยคที่เป็น Passive Voice ให้เป็น Active Voice (ประธานเป็นผู้กระทำ) เพื่อให้อ่านสนุกขึ้น
2. ตัดคำฟุ่มเฟือย: ตัดคำว่า 'ซึ่ง', 'อัน', 'ทำการ' ที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้ประโยคกระชับ
3. ตรวจสอบความลื่นไหล: ถ้าประโยคไหนอ่านแล้วสะดุด ให้เขียนใหม่ให้สละสลวยขึ้น
4. ระดับภาษา: ปรับให้เหมาะกับคนไทยอ่าน (ไม่เอาสำนวนแปลจาก Google Translate)

ข้อควรระวัง: ห้ามเปลี่ยนความหมายเดิมของเนื้อหาเด็ดขาด"

ทำไมคำสั่งนี้ถึงได้ผล: ChatGPT แปลภาษาไทยได้ดีแต่บางครั้งยังติดสำนวนต่างชาติ (เช่น "ถูกกระทำโดย...") Prompt นี้จะช่วย "ตบ" ภาษาให้เข้าที่เข้าทางเหมือนคนไทยเขียนเองครับ

คำสั่งที่ 6: ผู้เชี่ยวชาญด้าน Meta และสรุป (The SEO Finisher)

ส่วนสุดท้ายที่คนมักมองข้าม แต่สำคัญต่อการคลิก (CTR) มากๆ คือชื่อเรื่องและคำอธิบายครับ

"สวมบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Technical SEO และ Copywriting

ข้อมูลบทความ: [ใส่เนื้อหาบทความย่อๆ หรือหัวข้อเรื่อง]
Keyword หลัก: [ใส่ Keyword]

สิ่งที่คุณต้องทำ:
1. SEO Title: เขียนชื่อบทความภาษาไทยมา 5 แบบ ความยาวไม่เกิน 60 ตัวอักษร ต้องมี Keyword หลัก และใช้คำกระตุ้นอารมณ์ (Power Words)
2. Meta Description: เขียนคำอธิบายบทความมา 3 แบบ ความยาวไม่เกิน 155 ตัวอักษร ต้องมี Keyword หลัก และ Call to Action (CTA) ที่น่าสนใจ
3. URL Slug: เขียน URL ภาษาอังกฤษที่สั้น กระชับ สื่อความหมาย และมี Keyword (ใช้ - คั่นระหว่างคำ)
4. บทสรุป (Conclusion): เขียนสรุปจบความยาว 150 คำ ที่ขมวดปมสำคัญ และกระตุ้นให้ผู้อ่านทำอะไรบางอย่าง (เช่น ลองทำตาม, แชร์บทความ)"

ทำไมคำสั่งนี้ถึงได้ผล: การให้ AI คิด Title และ Description หลายๆ แบบ ช่วยให้เรามีตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำ A/B Testing หรือเลือกอันที่คิดว่าคนจะคลิกมากที่สุดครับ

คำสั่งที่ 7: นักแปลงคอนเทนต์สู่โซเชียล (The Content Repurposer)

เขียนบทความยาว 3,000 คำทั้งที ต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุดครับ อย่าปล่อยให้มันอยู่แค่ในเว็บ

"สวมบทบาทเป็น Creative Content Creator สำหรับ Social Media

แหล่งข้อมูล: ใช้ข้อมูลจากบทความเรื่อง [ใส่ชื่อบทความ] ที่เพิ่งเขียนเสร็จ

สิ่งที่คุณต้องทำ:
เปลี่ยนบทความยาวนี้ ให้กลายเป็นคอนเทนต์ย่อย 2 รูปแบบ:

1. Facebook Album Post: สรุปใจความสำคัญออกมาเป็น 5-7 ข้อ (แต่ละข้อสั้นๆ ได้ใจความ) เพื่อนำไปทำเป็นรูปภาพอัลบั้ม พร้อมแคปชั่นสั้นๆ ที่ชวนให้กดแชร์
2. TikTok Script (ความยาว 60 วินาที): เขียนสคริปต์พูดสำหรับวิดีโอสั้น
- วินาทีที่ 0-3: ประโยคเปิดหัวที่หยุดนิ้วโป้งคนดู (Hook)
- วินาทีที่ 4-45: เนื้อหาหลักแบบสรุปเนื้อๆ เน้นจุดที่พีคที่สุด
- วินาทีที่ 46-60: สรุปและ Call to Action (เช่น บอกให้กดเซฟคลิปไว้ดูทีหลัง)"

เคล็ดลับ: นี่คือเทคนิคของ Influencer ดังๆ คือ "One Content, Many Platforms" คุณเหนื่อยเขียนบทความครั้งเดียว แต่ AI ช่วยคุณแตกแขนงไปได้ทุกช่องทางครับ


ข้อควรระวังและวิธีตรวจสอบงานเขียนจาก AI

แม้ Prompt ทั้ง 7 นี้จะทรงพลังมาก แต่คุณต้องจำไว้เสมอว่า "AI คือผู้ช่วย ไม่ใช่เจ้านาย" ครับ

  1. Fact Check (ตรวจสอบความจริง): AI อาจจะ "มั่ว" ข้อมูลตัวเลข หรือสถิติได้เสมอ (AI Hallucination) ถ้าบทความของคุณเกี่ยวกับสุขภาพ การเงิน หรือกฎหมาย ต้องตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออีกครั้งครับ
  2. อัปเดตข้อมูล: ChatGPT (เวอร์ชันฟรี) อาจมีฐานข้อมูลจำกัด ถ้าคุณเขียนเรื่องเทรนด์ใหม่ล่าสุด คุณต้องป้อนข้อมูลดิบใหม่ๆ เข้าไปใน Prompt ด้วย
  3. ใส่ความเป็นตัวเอง (Personal Touch): อย่าลืมเติมประสบการณ์ส่วนตัว เรื่องเล่า หรือความเห็นของคุณลงไป เพราะนี่คือสิ่งที่ AI เลียนแบบไม่ได้ และเป็นสิ่งที่ Google ยุคใหม่ต้องการครับ

บทสรุป

การใช้ Prompt ChatGPT เขียนบทความไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเขียนให้ "ดี" และ "ติดอันดับ" นั้นต้องใช้ศิลปะในการสั่งงานครับ การใช้ 7 คำสั่งระดับสูง ที่ผมแนะนำไปข้างต้น ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ การวางโครงสร้าง การเขียนเนื้อหาพร้อมตัวอย่าง ไปจนถึงการแปรรูปคอนเทนต์ จะช่วยเปลี่ยนงานเขียนธรรมดาๆ ให้กลายเป็นบทความคุณภาพระดับมืออาชีพ

อย่าเชื่อผม... จนกว่าคุณจะได้ลองก๊อปปี้คำสั่งเหล่านี้ไปใช้กับงานของคุณเอง ลองเริ่มจาก Prompt ที่ 1 วันนี้เลย แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างที่น่าทึ่งครับ!


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q1: ใช้ ChatGPT เขียนบทความแล้ว Google จะแบนไหม?

A: Google ประกาศชัดเจนว่า ไม่แบน เนื้อหาที่สร้างโดย AI ตราบใดที่เนื้อหานั้น "มีคุณภาพ มีประโยชน์ และสร้างขึ้นเพื่อผู้อ่าน" ไม่ใช่สร้างมาเพื่อปั่นอันดับ ดังนั้นการใช้ Prompt ที่ดีเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพจึงสำคัญมากครับ

Q2: ควรใช้ ChatGPT เวอร์ชันฟรี (3.5) หรือเสียเงิน (4.0/Plus) ในการเขียนบทความ?

A: ถ้าเป็นไปได้แนะนำ GPT-4 (เวอร์ชันเสียเงิน) ครับ เพราะมีความเข้าใจภาษาไทยดีกว่ามาก มีความคิดสร้างสรรค์ซับซ้อนกว่า และมั่วนิ่มน้อยกว่า แต่ถ้าใช้เวอร์ชันฟรี คำสั่ง Prompt ที่ละเอียดตามตัวอย่างในบทความนี้ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นกว่าเดิมมากครับ

Q3: ความยาวบทความ SEO ที่ดีควรเป็นเท่าไหร่?

A: ไม่มีตัวเลขตายตัว แต่สำหรับบทความหลัก (Pillar Content) ที่ต้องการให้ความรู้ละเอียด มักจะมีความยาว 1,500 - 3,000 คำขึ้นไป เพราะ Google ชอบเนื้อหาที่ครอบคลุม (Comprehensive) ตอบคำถามผู้อ่านได้จบในที่เดียวครับ

Q4: ทำไมใช้ Prompt แล้ว AI ยังเขียนภาษาไทยแปลกๆ?

A: เพราะฐานข้อมูลภาษาไทยของ AI ยังน้อยกว่าภาษาอังกฤษ เทคนิคแก้คือ ให้สั่งว่า "ใช้ภาษาระดับสนทนา (Conversational Tone)" หรือใช้ Prompt ที่ 5 (บรรณาธิการ) มาช่วยเกลาอีกรอบ หรือเขียน Prompt เป็นภาษาอังกฤษแล้วสั่งให้ Output เป็นภาษาไทย ก็ช่วยได้ครับ

Q5: เราสามารถใส่ชื่อแบรนด์ของเราลงไปใน Prompt ได้ไหม?

A: ควรทำอย่างยิ่งครับ! ในส่วน "Context" ของ Prompt ให้ใส่ชื่อแบรนด์ จุดเด่นสินค้า และ Tone of Voice ของแบรนด์ลงไปด้วย AI จะได้เขียนเนื้อหาที่สอดคล้องกับแบรนด์ของคุณ ไม่ใช่เขียนแบบกลางๆ ครับ

Q6: ต้องมีความรู้ด้าน Coding เพื่อใช้ Prompt เหล่านี้ไหม?

A: ไม่จำเป็นเลยครับ Prompt Engineering คือการใช้ "ภาษามนุษย์" สั่งงานคอมพิวเตอร์ คุณแค่ต้องมีตรรกะในการอธิบายสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน เหมือนคุยกับคน เท่านี้ก็ใช้งานได้แล้วครับ


อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ ChatGPT แบบเจาะลึก?
ไปดูคอร์สเรียน ChatGPT เพิ่มเติม ผ่านลิงค์นี้ https://www.benziogpt.com/courses

Categories: : ChatGPT Prompts